พญ.กิริฎา ตระกูลรุ่ง (หมอนก) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม CEO Siriya Clinic By Dr. Kirida หมอได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้ดีมากค่ะ โดยภาวะที่เรียกว่า “Overfilled Syndrome” แท้จริงแล้วมันคืออะไรกัน และทำไมถึงต้องพูดถึงเรื่องนี้ ซึ่งภาวะนี้เกิดขึ้นมากในต่างประเทศ และในไทยก็กำลังเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน
เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้จัก The Weekend นักร้องระดับโลกชาวอเมริกันที่เพิ่งขึ้นแสดงใน Super Bowl 2021 ที่ผ่านมา ใน MV เพลงล่าสุด “Save Your Tears” ที่ปล่อยออกมานั้น The Weekend ได้ปรากฏตัวในรูปลักษณ์ที่แปลกออกไป (จากการ Make up) จนแม้แต่สื่อในอเมริกายังต้องมีการออกมาพูดถึงว่า The Weekend ต้องการสื่อสารอะไร
อย่างเช่นใน Hollywoodlife.com ได้กล่าวถึงว่า The weekend ได้ปรากฏตัวด้วยใบหน้าที่แน่นตึงราวกับทำศัลยกรรมพลาสติกมา มีรอยแผลเป็นทั่วใบหน้า แก้มตอบ ปากอิ่ม
ปัจจุบันการฉีด Filler หรือที่เรียกว่าสารเติมเต็มนั้นเป็นเรื่องปกติที่ใครๆก็ทำกัน
ทำให้ตอนนี้มีภาวะแบบหนึ่งที่พบมากขึ้นเรื่อยๆ ในทางการแพทย์เราเรียกภาวะนี้ว่า Overfilled Syndrome แปลง่ายๆก็คือเติมหน้าจนล้นนั่นเอง
ภาวะนี้จะเป็นลักษณะที่เติมเต็มทุกพื้นที่บนใบหน้า ด้วยคิดว่ายิ่งเต็มยิ่งดี สุดท้ายจะได้ลักษณะใบหน้าที่ออกมาคล้ายๆกัน
ฝรั่งจะเปรียบเทียบว่าเหมือน Chipmunk คือ
🚫 Flowerhorn forhead หน้าผากโหนกนูนมากๆ
🚫 Chipmunk cheecks โหนกแก้มเต็มแน่นมากๆ มักจะเกิดจากการเติมเต็มใต้ตามากเกินไปด้วยหวังว่าไม่ต้องการให้เห็นร่องใดๆเลยจนเวลายิ้ม แก้มจะยกขึ้นมาบังตา ทำให้ตาดูตี่เล็กลง (Sunset eyes)
🚫 Flying saucer face/Pillow face จากการเติมร่องแก้มมากไปจนแน่น
🚫 Boarded nose ปีกจมูกถ่างกว้างออก เพราะหน้าถูกเติมเต็มจนแน่น โดยเฉพาะบริเวณร่องแก้ม ทำให้ปีกจมูกถูกดันออก
🚫 Suasage Lip ปากอูมเต็มแน่น
🚫 Witch chin คางแหลมเหมือนแม่มด
ส่วนตัวหมอนกเองในฐานะที่เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม โดยปกติหมอนกก็เติม Filler ตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่เคยต่อต้านการฉีดสารเติมเต็มหรือการทำศัลยกรรมพลาสติกใดๆค่ะ และในเคสที่มาปรึกษาหมอ หมอจะพิจารณาก่อนเติมหรือฉีดสารเติมเต็มก่อนทุกเคส ดูความเหมาะสมความพอดีและเข้ากับรูปหน้าของแต่ละคน เพื่อคงความสวยในแบบของตัวเอง และเป็นธรรมชาติ
แต่การจะทำสิ่งใดกับใบหน้านั้น ทางสายกลางย่อมดีที่สุด นั่นอาจหมายถึงไม่มากเกินไป และไม่น้อยจนเกินไป
พญ.กิริฎา ตระกูลรุ่ง ยังกล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า “ความที่ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบมากจนเกินไป หน้าผากเป๊ะ แก้มเป๊ะ ใต้ตาเป๊ะ ปากเป๊ะ คางเป๊ะ พอมาอยู่รวมกันมันอาจจะกลับกลายเป็นไม่สวยงามได้ และสูญเสียความสวยในแบบของตัวเอง และเราจะต้องวิ่งตามเทรนด์ความงามนั้นตลอดเวลาค่ะ เพราะโดยธรรมชาติแล้วไม่มีอะไร 100% เต็มนะคะ และในชีวิตจริงนั้นเราอาจจะต้องเหลือพื้นที่เล็กๆ ให้กับความไม่สมบูรณ์แบบบ้าง เพราะความสมบูรณ์แบบที่เหนือธรรมชาตินั้นอาจจะไม่เท่ากับความงามที่เราต้องสูญเสียค่ะ”
